นักวิจัยพบว่าช๊อกโกแลตดำเพียงวันละสองช้อนโต๊ะ หรือจะแปรรูปเป็นโกโก้ร้อน 1 แก้ว ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดได้พอๆ กับการกินยาแอสไพริน
โครงการศึกษาผลจากยาแอสไพรินที่มีผลต่อเกร็ดเลือด โดยศาสตราจารย์ไดแอนน์เบกเกอร์ ผู้นำการวิจัยของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดให้กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกาย งดบุหรี่ และอาหารบางอย่าง เช่น ไวน์ ชากาแฟ และช๊อกโกแลตก่อนเข้ารับการทดลอง หลังจากนั้นนักวิจัยทำการเปรียบเทียบ ระยะเวลาที่เกล็ดเลือดจับตัวกันเป็นก้อน พบว่าเกล็ดเลือดของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่งดช๊อกโกแลต มีเกล็ดเลือดจับตัวกันช้ากว่า
กลุ่มนักวิจัยจึงศึกษาเพิ่มเติมคุณสมบัติของเมล็ดโกโก้ และพบว่าในเมล็ดโกโก้มีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่มีผลทางชีวเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นเลือด และหลอดเลือดอุดตันที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด
ก่อนหน้านี้ก็ได้มีรายงานการวิจัยที่ออกมาสนับสนุนประโยชน์ของช๊อกโกแลตอย่างต่อเนื่องอาทิ พบว่าในช๊อกโกแลตมีสารเพนเทเมอร์ที่ช่วยยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
แม้ว่าสารเคมีที่อยู่ในเมล็ดโกโก้จะมีผลดีต่อการไหลเวียนของโลหิตได้ดี แต่หากว่าร่างกายได้รับไขมันและน้ำตาลที่มากเกินไปก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อหัวใจของคุณได้เช่นกัน